หลังจากอยู่โยงกับการเขียนบล็อกที่ blogspot มานานกว่า 4 ปี วันนี้ได้เวลาอำลาขอย้ายไปอยู่บ้านใหม่อีกหลังที่กว้างขวาง มีพื้นที่สะดวกสบาย และสวยงามในแบบเรามากขึ้น
เรื่องราวหลังจากนี้จะขอย้ายไปโพสต์ที่ www.onlyobservation.com และพบกันที่บ้านใหม่
Only Observation :)
ONLY OBSERVATION
วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
just finished reading
"ทุกหายนะที่เธอพาฉันข้ามพ้น
ทุกเสียงประสานที่ทำให้ฉันอบอุ่น
อย่าปล่อยให้ฉันคืนสิ่งเหล่านี้ให้เธอ
หน้าต่างของเธอมืดสลัว กุญแจไม่ได้อยู่ที่นั่น"
"ชายหนุ่มหลุมข้างๆ" Grabben i graven bredvid
สำนักพิมพ์กำมะหยี่ม ธันวาคม 2555
วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556
เดินทางใจ
ปี 2012 เป็นปีของการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิต ได้ละทิ้งและเริ่มต้นใหม่กับบางสิ่ง และเป็นช่วงเวลาที่ได้ทบทวนครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง เมื่อได้ทบทวนดูแล้ว ฉันรู้สึกพอใจกับตัวเองในระดับหนึ่งที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคทั้งภายนอกและภายในตนเองได้ในบางสิ่ง ซึ่งสำคัญพอที่จะช่วยให้ชีวิตมีความสุขได้ง่ายขึ้น และมองเห็นเส้นทางและเป้าหมายของอนาคตที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย
ฉันยอมรับกับตัวเองอย่างหมดใจได้ว่า ความสัมพันธ์กับตัวเองและผู้คนที่รายล้อมในชีวิตมีผลสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆในชีวิตในปีที่ผ่านมา ความรัก มิตรภาพ การให้อภัย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญของการเติบโตด้านในจิตใจและจิตวิญญาณของตัวเอง ฉันยอบรับเงื่อนไขของชีวิตตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยที่ทำให้ตัวเองตระหนักมากขึ้นว่า การที่พยายามผลักดันชีวิตไปให้พ้นขีดจำกัดต่างๆอยู่เสมอนั้นบางครั้งก็ไร้ประโยชน์และสร้างทุกข์เสียมากกว่าจะสร้างความสุขให้ชีวิต เราจะไม่สามารถไปได้ไกล หากไม่ยอมเปลี่ยนแปลงข้างในตัวเอง
ปีที่ผ่านไปฉันได้พบแรงบันดาลใจใหม่อย่างคาดไม่ถึง ซึ่งตอกย้ำให้เราเองเข้าใจตัวเองมากขึ้นด้วยว่าเราต้องการ "คนนำทาง" สำหรับช่วงชีวิตในวัยนี้ การได้พบกับคนแปลกหน้าที่กลายมาเป็นเพื่อน มากกว่านั้นได้กลายเป็นแรงบันดาลใจใหม่สำหรับการใช้ชีวิต นับเป็นพรอันประเสริฐที่ปรากฏขึ้นในชีวิต ขอบคุณโอกาสที่จัดสรรเวลาให้สิ่งนี้ได้เกิดขึ้น
สุดท้ายฉันหลงรักการเดินทางอย่างจริงจังและเข้าใจความหมายของมันยิ่งกว่าช่วงเวลาไหนๆของชีวิต มันเป็นความพอเหมาะพอดีที่ทุกการเดินทางที่เกิดขึ้นทำให้เราเห็นใจตัวเองแจ่มชัด การเดินทางจึงเสมือนเป็นแบตเตอรี่ที่ชาร์จพลังต่อชีวิตให้แรงและยาวนานมากขึ้นท่ามกลางภาระ อุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในชีวิต และการเดินทางยังทำให้ฉันยอมรับสิ่งต่างๆในชีวิตได้มากขึ้น ลดความสงสัย หวาดระแวง และความกลัว ลงไปอีกมากทีเดียว
ฉันยอมรับกับตัวเองอย่างหมดใจได้ว่า ความสัมพันธ์กับตัวเองและผู้คนที่รายล้อมในชีวิตมีผลสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆในชีวิตในปีที่ผ่านมา ความรัก มิตรภาพ การให้อภัย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญของการเติบโตด้านในจิตใจและจิตวิญญาณของตัวเอง ฉันยอบรับเงื่อนไขของชีวิตตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยที่ทำให้ตัวเองตระหนักมากขึ้นว่า การที่พยายามผลักดันชีวิตไปให้พ้นขีดจำกัดต่างๆอยู่เสมอนั้นบางครั้งก็ไร้ประโยชน์และสร้างทุกข์เสียมากกว่าจะสร้างความสุขให้ชีวิต เราจะไม่สามารถไปได้ไกล หากไม่ยอมเปลี่ยนแปลงข้างในตัวเอง
ปีที่ผ่านไปฉันได้พบแรงบันดาลใจใหม่อย่างคาดไม่ถึง ซึ่งตอกย้ำให้เราเองเข้าใจตัวเองมากขึ้นด้วยว่าเราต้องการ "คนนำทาง" สำหรับช่วงชีวิตในวัยนี้ การได้พบกับคนแปลกหน้าที่กลายมาเป็นเพื่อน มากกว่านั้นได้กลายเป็นแรงบันดาลใจใหม่สำหรับการใช้ชีวิต นับเป็นพรอันประเสริฐที่ปรากฏขึ้นในชีวิต ขอบคุณโอกาสที่จัดสรรเวลาให้สิ่งนี้ได้เกิดขึ้น
สุดท้ายฉันหลงรักการเดินทางอย่างจริงจังและเข้าใจความหมายของมันยิ่งกว่าช่วงเวลาไหนๆของชีวิต มันเป็นความพอเหมาะพอดีที่ทุกการเดินทางที่เกิดขึ้นทำให้เราเห็นใจตัวเองแจ่มชัด การเดินทางจึงเสมือนเป็นแบตเตอรี่ที่ชาร์จพลังต่อชีวิตให้แรงและยาวนานมากขึ้นท่ามกลางภาระ อุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในชีวิต และการเดินทางยังทำให้ฉันยอมรับสิ่งต่างๆในชีวิตได้มากขึ้น ลดความสงสัย หวาดระแวง และความกลัว ลงไปอีกมากทีเดียว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)