วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ไร้หัวข้อ..

เขียนไม่ออกอ่ะ รู้แต่ว่าอยากเขียนอะไรสักอย่างที่มันไม่ต้องมีจุดหมายหรือมีหัวข้อ รู้สึกแต่ว่าช่วงนี้มีความรู้สึกและความคิดล้านอย่างลอยไปมาอยู่ในหัว อธิบายออกมาอย่างเป็นระบบไม่ได้ ไร้ "สติ" สุดๆ อุตส่าห์ตั้งใจจะฝึกเจริญสติในชีวิตประจำวัน ยังทำไม่ค่อยได้ พัฒนาขึ้นเพียงไม่มีปฏิกิริยาแบบ "ทันควัน" กับบางสิ่งที่มันเป็น "ตัวจี๊ด" เจ้าประจำเท่านั้น ก็ยังดีหน่อยที่ครองสติไว้ได้

ไอ้อารมณ์ประมาณนี้มันมาเยี่ยมเยือนอยู่เรื่อยๆ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ว่าเป็นอะไร ต้องการอะไร บังเอิญก้ไปอ่านเจอข้อแนะนำที่ชัดเจนและน่าสนใจตากหนังสือ The Last Lecture เขียนโดย Randy Pausch ที่บอกว่ามันมีความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เป็น Disease และ Symthom เพราะฉะนั้นต้องพิจารณามันให้ดีว่าปัญหาหรือความทุกข์เของเรามันอยู่ในขั้นไหน เพราะถ้าหากมันเป็น Disease ก็ทางยามารักษาเสีย เป็นแค่อาการเจ็บป่วยทางกายเท่านั้น ไม่ต้องอ้อมค้อมไปไหนไกล รักษากันตรงๆไปเลย แต่หากดูแล้วมันเป็นSymthom จะซับซ้อนมากกว่า เพราะมันบวกเอาอาการเจ็บป่วยทางใจเข้าไปด้วย ทีนี้จรักษาด้วยยาธรรมดาไม่ไหว ต้องอาศัยวิธีการอย่างอื่น ที่ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดทางใจด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่ด้วยว่าเรื้อรังขนาดไหน

ฉะนั้นเราเองตอนนี้ก็วินิจฉัยมันอยู่ว่าไอ้อาการทั้งหลายแหล่เนี่ย มันอยู่ขั้นไหนกันบ้างแล้ว ไม่ว่าเป็น Disease หรือ Symthom จะได้รักษากันได้ถูกที่ ถูกเวลา :D

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รูปของบลอก
ภาษาเด็กนิเทศเค้าเรียกว่า
แอมเล่นใหญ่ว่ะ

อิอิ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ส่วนเด็กถาปัดเรียก
"เต็มที่มากมาก"