วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552

The Prophet ปรัชญาชีวิต

บทที่สาม ความปราโมทย์และความเศร้าโศก

ความปราโมทย์ของเธอนั้น
คือความเศร้าโศกถอดหน้ากากออก
และจากบ่อเดียวกัน
ที่เสียงหัวเราะของเธอผุดขึ้นมานั้น
บ่อยครั้งมันเปี่ยมไปด้วยน้ำตาของเธอ
มันจะเป็นอย่างอื่นใดได้อีกเล่า

ความเศร้าโศกยิ่งบาดลึกลงไปในผิวเนื้อของเธอได้เท่าใด
เธอก็จะสามารถเก็บเอาความปราโมทย์ได้มากขึ้นเพียงนั้น
ก็ถ้วยที่เธอรินใส่ถ้วยองุ่นนั้น
มันจะต้องถูกเผาในเตาอบของช่างปั้นก่อนมิใช่หรือ
และขลุ่ยที่เป่ากล่อมดวงใจเธอนั้น
มิใช่ไม้ที่ถูกบากเจาะด้วยมีดก่อนหรอกหรือ

ขณะเมื่อเธอปรีดาปราโมทย์
จงมองลึกลงไปในดวงใจ
และเธอก็จะพบว่า สิ่งซึ่งได้เคยยังความเศร้าโศกแก่เธอนั้น
กำลังให้ความปราโมทย์แก่เธอ
ขณะเมื่อเธอเศร้าโศก
จงมองลงไปอีกและก็จะพบว่า
แท้จริงนั้น เธอกำลังสะอื้นไห้ถึงสิ่งที่เคยก่อความยินดีมาแล้ว

เธอบางคนกล่าวว่า
ความปราโมทย์นั้นยิ่งใหญ่กว่าความเศร้าโศก
และอีกพวกแย้งว่า
ไม่ใช่ ความเศร้าโศกต่างหากที่ยิ่งใหญ่กว่า
แต่เราขอบอกแก่เธอว่า
มันมิอาจแยกจากกันได้
มันมาด้วยกัน

และขณะเมื่อสิ่งหนึ่งนั่งอยู่กับเธอที่โต๊ะ
พึงระลึกไว้ว่า อีกสิ่งหนึ่งหลับรออยู่บนเตียง
แท้จริงนั้น เธอแขวนไกวอยู่ดุจตาชั่ง ร
ะหว่างความเศร้าโศกและความปราโมทย์ของเธอ
เธอจะยืนนิ่งอยู่และไม่เอนเอียง
ก็แต่ในขณะเมื่อเธอว่างเปล่าเท่านั้น
ขณะเมื่อผู้รักษาสมบัติยกเธอขึ้นเพื่อชั่งเงินและทองของเขา
ก็ไม่จำเป็นที่ความเศร้าโศกหรือความชื่นชมของเธอจะต้องเอียงขึ้นลงด้วย

เขียน คาลิล ยิบราน
แปล ระวี ภาวิไล

ไม่มีความคิดเห็น: