วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Letters to Juliet


1. ไอเดียดึงนักท่องเที่ยวแบบในหนังเรืองนี้ที่เมืองเวโรน่าให้คนเขียนจดหมายระบายปัญหาและติดไว้ที่ผนังบ้านของจูเลียตหลังจากนั้นจะมีกลุ่มคนที่คอยตอบจดหมายเหล่านั้นกลับไปพร้อมให้คำปรึกษาที่ดี เป็นความคิดที่เจ๋งดี ดูเป็นการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรและให้ความอบอุ่นสำหรับคนไกลบ้าน
2. ฉากทิวทัศน์ของเมืองเวโรน่า ในอิตาลี งดงามนัก พลอยทำให้หนังซึ่งมีพล็อตสำเร็จรูปโรแมนติกแบบฮอลลีวูดกลายเป็นไม่น่ารำคาญเกินไปนัก / อ่อ.. นางเอกของเรื่องด้วย อแมนดา ซีฟริดจ์ น่าตาน่ารักสุดๆ
3. คนสมัยใหม่ไม่เชื่อในเรื่อง "รักแรกพบ" ซึ่งหนังสื่อทำนองว่าคนรุ่นใหม่ไม่ให้ความสำคัญกับสัญชาติญาณและความรักอีกต่อไป แต่เลือกที่จะอยู่กับความเป็นจริงปัจจุบันมากกว่าแม้ว่ามันจะไม่ใฃ่ความสุขที่แท้จริง
4. ขณะดูหนังเรื่องนี้ก็คิดว่า เสน่ห์ของหนังโรแมนติกแบบนี้คืออะไรกันแน่ แม้ว่าเราจะรู้อยู่แล้วว่ามันจะดำเนินและจบอย่างไร แต่เราก็ยังชอบดูอยู่เสมอ อาจเป็นเพราะ "ความโรแมนติก" ของตัวมันเอง ที่ไม่สามารถเป็นความจริงในชีวิตมนุษย์ธรรมดาได้ คนเราจำนวนมากจึงยังคงชอบดูหนังประเภท
5. ความซาบซึ้งและรู้สึกโรแมนติกที่สุดสำหรับเราที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ เนื้อความในจดหมายที่นางเอกตอบกลับในฐานะ จูเลียต ไปหาคุณย่าแคลร์ แม้ว่าจะตอบช้าไปนานหลายสิบปี จนทำให้เธอออกจากอังกฤษและเดินทางไปอิตาลีเพื่อตามหาคนรักที่จากกัน 50 ปี เนื้อความในจดหมายนั้น เป็นไคลแมกซ์ตามชื่อหนังเรื่องนี้จริงๆ --> อย่างย่อ (อาจจะน้ำเน่าหน่อย) ถ้ายังเชื่อในความรักนั้นว่าเป็นรักแท้อยู่ ก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะตามหา และเพื่อไม่ต้องมีชีวิตอยู่กับความเสียดาย ไม่ต้องเสียใจและคร่ำครวญกับตัวเองด้วยคำถามว่า "ถ้าหาก...."

ไม่มีความคิดเห็น: