"We are always living in twilight
Living in a dream ,walking in between sunrise and sunset"
ชีวิตแต่ละวันเป็นแค่การเดินทางไป-มา อยู่ระหว่าง
ฝั่งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
ไม่อาจสว่างไสวได้เสมอ แต่ก็ไม่ถึงกับดับมืดมิด คือความจริงสามัญยิ่งนัก
บางครั้งก็รู้สึกขอบคุณ แต่บางครั้งก็รู้สึกเสียใจ
ตรงกลางของความรู้สึกทั้งสอง อาจเป็นพื้นที่ที่เรายังสามารถอยู่ร่วมกันได้
วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
"ความทรงจำ" ประกอบสร้างจากหลายสิ่งในชีวิตประจำวัน
สถานที่ ผู้คน กิจกรรม คำพูด การกระทำ แสง เสียง สี ฯลฯ
ทุกวันที่ผ่านไป รายละเอียดเล็กๆน้อย เก็บสะสมและก่อตัว
กลายเป็นความเคยชิน และถูกจดจำ โดยไมรู้เนื้อรู้ตัว
ความทรงจำ ยังมีหลายซับหลายซ้อน เหมือนตู้ลับ
ไขเข้าไปเท่าไหร่ ก็เจอทีละชั้นของความทรงจำ ไม่รู้จักจบสิ้น
ความทรงจำจึงมีหลายระดับ ทั้งสำนึกรู้ตัว และไร้สำนึกรู้ตัว
บางทีร่างกายอาจสร้างกลไกของการจดจำให้ซับซ้อนมากที่สุด
เพื่อช่วยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่รอดได้ยาวนานที่สุด


สถานที่ ผู้คน กิจกรรม คำพูด การกระทำ แสง เสียง สี ฯลฯ
ทุกวันที่ผ่านไป รายละเอียดเล็กๆน้อย เก็บสะสมและก่อตัว
กลายเป็นความเคยชิน และถูกจดจำ โดยไมรู้เนื้อรู้ตัว
ความทรงจำ ยังมีหลายซับหลายซ้อน เหมือนตู้ลับ
ไขเข้าไปเท่าไหร่ ก็เจอทีละชั้นของความทรงจำ ไม่รู้จักจบสิ้น
ความทรงจำจึงมีหลายระดับ ทั้งสำนึกรู้ตัว และไร้สำนึกรู้ตัว
บางทีร่างกายอาจสร้างกลไกของการจดจำให้ซับซ้อนมากที่สุด
เพื่อช่วยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่รอดได้ยาวนานที่สุด



วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
คือทุกๆวัน
ความสุขเล็กๆน้อยๆในแต่ละวัน คือ การที่สามารถมองเห็นและชื่นชม
ความงามของสิ่งรอบตัว วันธรรมดา ก็อาจไม่เป็นวันธรรมดาอีกต่อไป :)

เที่ยงวัน แหงนมองบนฟ้า เมฆลอยเหมือนคลื่นทะเล

วันหยุด ณ บ้านยาย มีรังนกกระจาบ อยู่หลายรัง น่ารักดี

ไร่ข้าวโพดกำลังโต ออกรวงเหลืองเต็ม

ไร่นี้กับโรงสีที่อยู่ไกลๆ โตขึ้นมาพร้อมๆกับเรา นานแค่ไหน แทบจำไม่ได้

ทับทิม กำลังออกผลเต็มต้น
ความงามของสิ่งรอบตัว วันธรรมดา ก็อาจไม่เป็นวันธรรมดาอีกต่อไป :)

เที่ยงวัน แหงนมองบนฟ้า เมฆลอยเหมือนคลื่นทะเล

วันหยุด ณ บ้านยาย มีรังนกกระจาบ อยู่หลายรัง น่ารักดี

ไร่ข้าวโพดกำลังโต ออกรวงเหลืองเต็ม

ไร่นี้กับโรงสีที่อยู่ไกลๆ โตขึ้นมาพร้อมๆกับเรา นานแค่ไหน แทบจำไม่ได้

ทับทิม กำลังออกผลเต็มต้น
วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
Travelling moment
วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ในสวน
สวนสาธารณะเป็นสถานที่ซึ่งเราได้แวะไปเที่ยวเล่นมากเป็นพิเศษ
ในช่วงที่ไปออสเตรเลียครั้งที่ 2 ทั้งในเมลเบิร์นและซิดนีย์
อาจด้วยความโชคดีที่ช่วงเวลาของการไปเยือนออสซี่ครั้งนี้
เราได้แสงแดดจัดจ้าน อากาศเย็นสบาย เป็นของขวัญ
ฉะนั้นจึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินเล่นในสวนอีกแล้ว :)

(Royal Botanical Garden Melbourne)

(Royal Botanical Garden Melbourne:Shrine of Remembrance)

(Royal Botanical Garden Melbourne)

(Fitzroy Garden)

(Fitzroy Garden)

(Fitzroy Garden)

(Fitzroy Garden)

(Ballarat Botanical Garden)

(Ballarat Botanical Garden)

(Ballarat Botanical Garden)

(Ballarat Botanical Garden)

(Ballarat Botanical Garden)

(Hyde Park, Sydney)

(Hyde Park, Sydney)

(Hyde Park, Sydney)

(Hyde Park, Sydney)
ในช่วงที่ไปออสเตรเลียครั้งที่ 2 ทั้งในเมลเบิร์นและซิดนีย์
อาจด้วยความโชคดีที่ช่วงเวลาของการไปเยือนออสซี่ครั้งนี้
เราได้แสงแดดจัดจ้าน อากาศเย็นสบาย เป็นของขวัญ
ฉะนั้นจึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินเล่นในสวนอีกแล้ว :)
(Royal Botanical Garden Melbourne)
(Royal Botanical Garden Melbourne:Shrine of Remembrance)
(Royal Botanical Garden Melbourne)
(Fitzroy Garden)
(Fitzroy Garden)
(Fitzroy Garden)
(Fitzroy Garden)
(Ballarat Botanical Garden)
(Ballarat Botanical Garden)
(Ballarat Botanical Garden)
(Ballarat Botanical Garden)
(Ballarat Botanical Garden)
(Hyde Park, Sydney)
(Hyde Park, Sydney)
(Hyde Park, Sydney)
(Hyde Park, Sydney)
วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ณ ริมฝั่งยาร์รา
ไม่บ่อยครั้งนักที่ในชีวิตเราจะได้มีโอกาสกลับไปเยือน
สถานที่บางแห่งเป็นรอบที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หากสถานที่นั่นอยู่ไกลข้ามประเทศ
แต่วันนี้เราได้กลับไปที่ เมลเบิร์น อีกครั้ง ในช่วงเวลา
ที่ห่างกันสองปี กลางเมืองเมลเบิร์นมีแม่น้ำสายหลัก
ไหลผ่านกลางเมืองชื่อว่า "ยาร์รา" (Yarra)
ครั้งแรกที่ได้ไปเยือน เราไม่มีโอกาสได้ชื่นชม
แม่น้ำยาร์รานัก ไม่ได้เห็นความเป็นธรรมชาติ
ในวันที่อากาศดีดี และมีผู้คนออกมาเดินเล่น
และทำกิจกรรมกลางแจ้ง ดังเช่นครั้งนี้
เราเดินเล่นริมแม่น้ำยาร์ราในช่วงบ่ายแก่ๆวันหนึ่ง
ณ ริมน้ำนั้น ความรู้สึกมันปลอดโปร่ง สดชื่น
รื่นรมย์ยิ่งนัก โอกาสที่จะได้เดินเล่นสบายๆ
ดูผู้คน และ สายน้ำ พร้อมอากาศดีดี แทบจะ
หาไม่ได้เมื่ออยู่กรุงเทพ นึกอิจฉาชาวเมลเบิร์น
เหมือนกันที่มีพื้นที่ธรรมชาติอยู่กลางเมือง
เพื่อการพักผ่อนง่ายๆเพียงแค่เดิน
ออกจากบ้านเท่านั้น

มุมนี้เป็นริมน้ำข้างๆ หอศิลป์ ฝั่ง Federation Square นั่งใต้ร่มไม้ บรรยากาศน่านอนเล่น

มองไปอีกฝั่งหนึ่ง เป็นโรงเก็บเรือ ตั้งเรียงราย อาคารเก่า ที่ดูยังดูคลาสสิกและเป็นเอกลักษณ์

คนออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ริมน้ำ อากาศดีที่มีแดดและฝนไม่ตก หาได้ยากสำหรับชาวเมลเบิร์น


ช่วงเวลาที่ใบไม่กำลังเปลี่ยนสี และกำลังไปสู่ความร่วงโรย กลับทำให้ยังดูงดงามได้

ภาพจากสะพานริมแม่น้ำยาร์รา มุมกว้างที่มองเป็นท้องน้ำยาวไกล ไหลพาดผ่านเมือง
สถานที่บางแห่งเป็นรอบที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หากสถานที่นั่นอยู่ไกลข้ามประเทศ
แต่วันนี้เราได้กลับไปที่ เมลเบิร์น อีกครั้ง ในช่วงเวลา
ที่ห่างกันสองปี กลางเมืองเมลเบิร์นมีแม่น้ำสายหลัก
ไหลผ่านกลางเมืองชื่อว่า "ยาร์รา" (Yarra)
ครั้งแรกที่ได้ไปเยือน เราไม่มีโอกาสได้ชื่นชม
แม่น้ำยาร์รานัก ไม่ได้เห็นความเป็นธรรมชาติ
ในวันที่อากาศดีดี และมีผู้คนออกมาเดินเล่น
และทำกิจกรรมกลางแจ้ง ดังเช่นครั้งนี้
เราเดินเล่นริมแม่น้ำยาร์ราในช่วงบ่ายแก่ๆวันหนึ่ง
ณ ริมน้ำนั้น ความรู้สึกมันปลอดโปร่ง สดชื่น
รื่นรมย์ยิ่งนัก โอกาสที่จะได้เดินเล่นสบายๆ
ดูผู้คน และ สายน้ำ พร้อมอากาศดีดี แทบจะ
หาไม่ได้เมื่ออยู่กรุงเทพ นึกอิจฉาชาวเมลเบิร์น
เหมือนกันที่มีพื้นที่ธรรมชาติอยู่กลางเมือง
เพื่อการพักผ่อนง่ายๆเพียงแค่เดิน
ออกจากบ้านเท่านั้น
มุมนี้เป็นริมน้ำข้างๆ หอศิลป์ ฝั่ง Federation Square นั่งใต้ร่มไม้ บรรยากาศน่านอนเล่น
มองไปอีกฝั่งหนึ่ง เป็นโรงเก็บเรือ ตั้งเรียงราย อาคารเก่า ที่ดูยังดูคลาสสิกและเป็นเอกลักษณ์
คนออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ริมน้ำ อากาศดีที่มีแดดและฝนไม่ตก หาได้ยากสำหรับชาวเมลเบิร์น
ช่วงเวลาที่ใบไม่กำลังเปลี่ยนสี และกำลังไปสู่ความร่วงโรย กลับทำให้ยังดูงดงามได้
ภาพจากสะพานริมแม่น้ำยาร์รา มุมกว้างที่มองเป็นท้องน้ำยาวไกล ไหลพาดผ่านเมือง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)