วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ครั้งแรก มูราคามิ


South of the border,west of the sun
การปรากฎตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก


นี่คือหนังสือเล่มแรกของมุราคามิที่เริ่มอ่าน ผลงานแปลภาษาไทยโดย โตมร ศุขปรีชาข้อเขียนของเขาช่างละเอียดถี่ถ้วน
เหลือเกินในการสร้างให้ตัวละครสำรวจความรู้สึกและจิตวิญญาณของตนเอง

เข้าใจแล้วว่าคนจำนวนหนึ่ง (ที่มาก) ทำไมถึงหลงใหลงานของมูราคามิ เพราะมันช่วยกระเทาะเปลือกที่ห่อหุ้มตัวเราได้ทีละเล็กทีละน้อย โดยเฉพาะผู้คนในสังคมเมืองสมัยใหม่อย่างเราๆ ที่หล่อมหลอม
เปลือกมาอย่างสลับซับซ้อน และแทบไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่อยู่ข้างในมันคืออะไรกันแน่

จากนวนิยายเล่มนี้ทั้งเรื่องเป็นการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง
ทุกช่วงเวลาที่เขาเติบโต การเปลี่ยนแปลงข้างนอก และ ข้างใน ตัวเอง ที่เชื่อมโยงอยู่กับการรอคอยที่จะได้เจอผู้หญิงที่เขารักตั้งแต่สมัยเด็ก เวลาผ่านไปแต่ไม่ได้ทำให้สิ่งที่ดำรงอยุ่ในจิตวิญญาณของเขาเปลี่ยนไป การเติบโตและเปลี่ยนแปลง อันที่จริงชีวิตข้างนอกเขาน่าจะมีความสุขมากล้น เพราะมีทุกสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาพยายามจะมีให้ได้แม้กระทั่งความรักที่เขาก็คิดว่าตัวเองมีอยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รู้สึกมากขึ้นว่าตัวเองนั้น"ขาด" บางอย่าง มันไม่ใช่สิ่งของภายนอก แต่มันคือสาระทางจิตวิญญาณ

มันจะเป็นอะไรนั้น ระหว่างทางที่ดิ้นรนเพื่อให้ได้มา ก็ทำให้เขายิ่งรู้จักตัวเองอย่างถี่ถ้วนทุกทีทุกที และแม้ว่าในท้ายที่สุดสิ่งที่เขาต้องการจะไม่ได้มา แต่คล้ายกับว่าตัวเขาเองได้ "ลอกคราบ" อีกครั้ง และเข้าใจมากขึ้นต่อโลกและชีวิตจริง และเลือกที่จะมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน

มีสาระสำคัญของเรื่องเกี่ยวกับ "การเป็นลูกคนเดียว" ซึ่งรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวเองมันคือภาวะที่หลายคนที่ไม่ได้เป้นอยู่อาจจะไม่มีวันเข้าใจได้ และแม้ว่าจะเป็นลูกคนเดียวเหมือนกัน ก็อาจจะไม่เข้าได้เช่นกัน เราคือเพือนชีวิตของตัวเอง และมันเป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่า เราก็หวงแหนชีวิตอันเป็นที่รักมากขึ้นทุกทีๆ พื้นที่อื่นข้างนอกมันอาจจะมีความสำคัญน้อยลงเมื่อเทียบกับพื้นที่ข้างในตัวเอง อย่างไรก็ตามเราก็ต้องผ่านจุดของการไขว่ขว้าหา "ข้างนอก" มาก่อน จึงจะเข้าใจว่า "ข้างใน" เราเองต่างหากที่ไม่เคยถูกเติมให้เต็มเลย และเราจะอยู่อย่างไรกับภาวะข้างในของเราเอง



"ใครคนหนึ่งแค่เพียงมีชีวิตอยู่ ก็สามารถทำลายชีวิตมนุษย์อีกคนได้ย่อยยับจนไม่อาจซ่อมแซม"


"บางครั้งแค่การมาสู่ของคนหนึ่ง อาจเปลี่ยนแปลงอีกคนหนึ่งไปชั่วชีวิต"


(ขอยกเครดิตของอรรถรสที่เกิดจากการได้อ่านนวนิยายเล่มนี้ให้แก่ผู้แปลเป็นอย่างยิ่ง)





ไม่มีความคิดเห็น: