วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คำอวยพร


ใครเคยมีปัญหากับการที่ต้องเขียนคำอวยพรให้แก่คนอื่นบ้าง ในที่นี้ให้ความหมายกับการเขียนให้แก่คนใกล้ชิด ที่มีความผูกพันกัน มากกว่าจะเป็นการเขียนให้ตามมารยาทแก่ผู้ใหญ่ เจ้านาย อะไรแบบนั้น สำหรับตัวเองการเขียนคำอวยพรไม่ว่าจะในโอกาสไหน หรือให้ใคร มันต้องใช้เวลาคิดเยอะเหมือนกัน เพราะมันหมายถึงการต้องนั่งทบทวนเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนๆนั้น ว่าเป็นอย่างไร ดำเนินมาอย่างไร แล้วจึงมาเข้าประเด็นตามวาระโอากาสที่จะอวยพรอีก จะว่าไปแล้วก็คล้ายการเขียนบทนำของความเรียง(ประมาณนั้น)

สำหรับตัวเอง สิ่งที่น่าบันเทิงใจของการเขียนคำอวยพร คือ การได้ค่อยๆเรียบเรียงประสบการณ์ชีวิตที่มีร่วมกันมากับคนที่เราต้องการจะอวยพร มันช่วยให้มองเห็นความสัมพันธ์ พื้นที่ เวลา ที่มันมีความหมายมากมาย ฉะนั้นห้วงเวลาที่ "รำลึก" แล้วต้องมาเขียนก็เลยอยากจะเขียนให้มันได้อย่างใจ บางทีเราก็พยายามสรรหาถ้อยคำหรูหรา ลึกซึ้ง (เกินไป) มาประดับในการ์ดอวยพร แต่พออ่านไปอ่านมาก็รู้สึกว่ามันประดิดประดอยไปหน่อยมั้ย(เนี่ย) ช่วงหลังๆเลยใช้คำแบบง่าย ตรง เหมือนที่เรารู้สึกไปเลยดีกว่า พออ่านแล้วก็จริงใจดี

การเขียนอวยพรจึงกลายเป็นความคาดหวังส่วนตัวไปโดยปริยาย ว่าต้องเขียนให้มีความหมายเหมาะกับคนๆนั้น และสอดคล้องกับความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วย ไม่ใช่เขียนอะไรที่ "ห่าง" "กว้าง" ราวกับเป็นคนห่างๆเหินๆ กัน เหมือนกับย้อนมาที่ตัวเรา ก็ชอบเก็บการ์ดอวยพรในโอกาสต่างๆที่คนอื่นให้เอาไว้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นใบเล็กใบน้อย และบางครั้งคราวก็เอามานั่งดูเล่นเพลินที่เดียว ดังนั้นจึงรู้สึกว่าทุกข้อความที่ให้ใครไปก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน จะเป็นเหมือนหลักฐานจากห้วงเวลานั้นที่จะอยู่กับทั้งเราและใครก็ตามที่เราอวยพรไปตลอด ก็เลยพยายามให้ความใส่ใจกับการเขียน "อวยพร" แก่ทุกคน ในทุกครั้งไป แม้ว่าหลายครั้งมันดูเหมือนจะไม่ใช่คำ "อวยพร" เท่าไหร่นัก

ไม่มีความคิดเห็น: