วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

หรือจะวนเวียนอยู่ร่ำไป


หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมถึงชอบเก็บเรื่องบางเรื่องเอาไว้ได้ตลอดเวลา และวนเวียนคิดอยู่เป็นนิจ ไม่ว่าเรื่องมันจะเนิ่นนานผ่านไปแค่ไหนแล้ว เราก็จะมีเรื่องนั้นเก็บอยู่ใน"ลิ้นชัก"ส่วนตัวเสมอ และนานๆครั้งหรืออาจบ่อยครั้งเราก็จะเปิดและหยิบมันออกมาดู และก็พลันตระหนักได้ว่า "นี่เราไปไม่ได้ไกลเลย"


เรามักจะคิดเสมอว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในชีวิตตลอดมา เราคือผู้ที่นั่งอยู่ที่เดิมเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่เคยเคลื่อนย้ายไปไหน แต่คนรอบข้างเราต่างหากที่ผลัดเปลี่ยนหน้าตาเข้ามาในชีวิต บ้างก็เข้ามาและอยู่นาน บ้างก็แค่แวะมาทักทาย แล้วก็แยกย้ายกันไป และอาจไม่ได้พบกันอีกชั่วชีวิต คนเหล่านั้นอาจจะเป็นคนใหม่ๆ หรืออาจจะเป็นคนเก่าที่ต้องวนเวียนมาพบกันเสมอทุกๆช่วงชีวิต แต่การพบกันแต่ละครั้งก็อาจเปลี่ยนหน้าตา และให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่เชื่อว่าเราเป็น "ผู้สังเกตการณ์"


ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เขาอาจจะคิดว่าเราก็เปลี่ยนไปเช่นกัน (หรือเปล่า) ช่วงนี้เป็นโอกาสที่ต้องได้พบปะกับมิตรสหายเก่าที่ห่างกันไปนาน เริ่มกลับมาให้ได้พบปะอีกครั้ง เราเห็นว่าทุกคนเปลี่ยนแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะ "ข้างนอก" หรือ "ข้างใน" นั่นทำให้เราได้สำรวจตัวเองผ่านการสนทนากับคนเหล่านั้นด้วย ซึ่งมันทำให้ระลึกถึงตัวเราเองเมื่อวันวานอย่างมากมาย เราในเมื่วาน กับ เราในวันนี้ ยังเป็นคนๆเดียวกันหรือไม่ เห็นการเคลื่อนตัวของเวลาชัดเจนมากขึ้น ทำให้สงสัยอยู่เนืองๆว่าเรามาไกลแค่ไหนแล้วนะ และเราจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน.

2 ความคิดเห็น:

goldfish กล่าวว่า...

I think continuously I change. but I know that there's a child of myself who's naturally be "just like that" inside. sometime I have to run with the change but there must be sometime I have to stop and listen to her voice in silence.

..just pass by to say hi ja :)

inanza กล่าวว่า...

บางครั้ง เราเอง
ก็เป็นคนที่ "ผ่านมาแล้วผ่านไป" ของคนอื่นเหมือนกัน

เราทุกคนต่างมีลิ้นชักแห่งความทรงจำนะ
บางทีจะคิดเรื่องอื่น แต่ดึงผิดลิ้นชัก กลับเจอเรื่องในอดีตที่ไม่ได้คิดถึงมานานก็เคย *-*

[แนะนำหนังสือ]
ลิ้นชักแห่งความทรงจำ (DRAWERS OF MEMORY)
โดย อิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์

แนนมีให้ยืมนะค้า :)