วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2552

There are no simple truths


"เธอจะทำอย่างไรเมื่อเธอไม่แน่ใจ"

บทเทศเริ่มต้นของบาทหลวงฟลินน์ แสดงโดย ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน ตัวละครจากภาพยนต์ Doubt ตลอดทั้งเรื่องเนื้อหาของหนังก็สร้าง "ความไม่แน่ใจ" ให้กับคนดูตั้งแต่ต้นจนจบเช่นกัน

เนื้อเรื่องที่พูดถึงความรู้สึกของความไม่แน่ใจ และการที่แต่ละคนจัดการกับความไม่แน่ใจของตนเองตัวอย่างที่อันตรายที่สุดของการ treat ความไม่แน่ใจของตัวเอง คงเป็นดังตัวละครเอกอีกตัวในเรื่องแม่ชีอาลูซิส ที่แสดงโดย เมอรีล สตรีพ ที่เชื่อและยึดมั่นกับสิ่งที่ตนเองเข้าใจ จนนำไปสู่การโกหกเพื่อที่จะสามารถจัดการปัญหาตามที่ตัวเองสงสัย และจบปัญหานั้นอย่างที่ตัวเองเชื่อ

ความไม่แน่ใจ ความสงสัย เกิดขึ้นตลอดเวลาในชีวิตประจำวันของเราทุกคน เราเลือกจัดการกับมันอย่างไร มันมีเส้นบางๆที่กั้นระหว่าง ข้อเท็จจริง กับ อคติ เพราะทั้งสองสิ่งถูกทำให้เกิดจากมนุษย์ เราจะสามารถซื่อตรงกับเรื่องราวต่างๆที่ต้องเผชิญได้มากแค่ไหน ลดการใช้อคติของเราจัดการกับปัญหานั้นได้มากเท่าไหร่

ฉากหนึ่งในหนังที่หลวงพ่อฟลินน์เทศน์ตัวอย่างเรื่องหนึ่งหนึ่งว่า มีหญิงผู้หนึ่งที่ไปพูดนินทาคนอื่น คืนหนึ่งนอนหลับฝันร้ายเห็นยักษ์เอื้อมมือจะมาบีบคอตนเอง เมื่อตื่นขึ้นมาจึงรู้สึกผิดบาปก็ไปที่โบสถ์เพื่อไปสารภาพบาปกับพระ พระองค์นั้นบอกให้หญิงผู้นั้นกลับบ้านไปเอาหมอนและปีนขึ้นไปบนหลังคาและใช้มีดกรีดหมอนนั้นเสีย จากนั้นจึงค่อยกลับไปสารภาพบาปอีกครั้ง หญิงผู้นั้นก็กลับบ้านไปทำดังที่หลวงพ่อองค์นั้นแนะนำ จากนั้นก็กลับไปที่โบสถ์อีกครั้ง หลวงพ่อถามว่า เมื่อกรีดหมอนแล้วพบอะไร หญิงนั้นตอบว่าคนเป็ดร่วงหล่นลงมาเต็มไปหมด หลวงพ่อจึงตอบกลับไปว่า งั้นเจ้าจงกลับไปเก็บขนเป็ดเหล่านั้นใหม้หมดเสียก่อนแล้วค่อยกลับมา หญิงผู้นั้นก็ร้องโวยวายว่าจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเก็บขนเป็ดที่ปลิวว่อนไปทั่วเมืองเหล่านั้นได้หมด หลวงพ่อจึงย้อนนางว่า มันเป็นดังนั้นล่ะ การแพร่สะพัดของข่าวลือ เมื่อพูดออกไปเมื่อไหร่ มันก็แพร่สะพัดไปทั่วอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถตามเก็บหรือแก้ไขความเข้าใจผิดของคนอื่นได้

ฉากที่ขนเป็ดปลิวว่อนลงมาจากหลังคา และลอยฟุ้งกระจายไปทั่วเมือง เป็นภาพคำอธิบายอย่างขัดเจนของการพูดในสิ่งที่ตนเองไม่รู้ และไม่แน่ใจ เป็นข่าวลือ ที่ไปไกลยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง แรงและเร็ว เพราะมนุษย์เรามักเลือกที่จะเชื่อเรื่องเล่าลือที่ต้นสายปลายเหตุไม่ได้ ไม่มีข้อเท็จจริงมาพิสูจน์ ตัดสินเพียงแค่ประสาทสัมผัสบางอย่างที่ไม่ครบถ้วนหรือตัดสิน ตีความเหล่านั้นจากประสบการณ์และอคติส่วนตัวเป็นใหญ่

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชอบหนังเรื่องนี้เพียงเพราะว่า รู้สึกว่า เฮ้ย ตรูเป็นเหมือนเจ๊คนนี้เลยในบางครั้ง ยืดมั่นกับความคิดตัวเองซะจนต้องเอาให้ได้ ชนะให้ได้ แต่สุดท้ายก็หลอกตัวเองไม่ได้เลยว่า ตรูก็ไม่แน่จายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเหมือนกัน